คำถามที่ถามบ่อย

AsahiGuard E-SERIES ™

อะไรคือความแตกต่างระหว่างอาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์ ™ กับอาซาฮีการ์ดแบบเดิม?
อาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์มีประสิทธิภาพสูงเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ของเรา แต่ไม่มีส่วนประกอบของกรดเพอร์ฟลูออโรออคตาโนอิค (PFOA) กรดเพอร์ฟลูออโรคาร์โบไซลิกที่เป็นโซ่ยาว (PFCAs) หรือสารตั้งต้นที่ระดับหรือเกินกว่าขีดจำกัดการตรวจวัด
อะไรคือความแตกต่างระหว่างอาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์ ™ กับผลิตภัณฑ์หรือสารกันน้ำอื่นๆ?
การกันน้ำเกิดขึ้นเมื่อแรงตึงผิวของพื้นผิวที่แข็งต่ำกว่าแรงตึงผิวของของเหลว สารกันน้ำ/น้ำมันที่มีฟลูออรีนเป็นองค์ประกอบที่ทำจากกลุ่มเพอร์ฟลูออโรอัลคิล ไม่เพียงแต่กันน้ำเท่านั้นแต่ยังป้องกันของเหลวที่มีคุณสมบัติการดูดซึมสูง เช่น น้ำมัน เนื่องจากกลุ่มอะตอมของเพอร์ฟลูออโรอัลคิลมีแรงตึงผิวต่ำเป็นพิเศษ ซึ่งต่ำกว่าคราบน้ำและน้ำมันมาก ด้วยคุณสมบัติความคงทนเป็นเยี่ยม จึงเป็นสารที่ดีกว่าสารกันน้ำและน้ำมันอื่นๆ ที่ทำจากขี้ผึ้งหรือซิลิโคน
ผลิตภัณฑ์ในปัจจุบันมีอะไรบ้าง?
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 10 ชนิดซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและกระดาษ โดยเราจะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ขึ้นอีกในอนาคต โปรดคลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด
คุณสมบัติของอาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์คืออะไรบ้าง?
อาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์ ™ ไม่มีส่วนประกอบของสาร PFOA, PFOA หรือสารตั้งต้นที่ระดับหรือเกินกว่าขีดจำกัดการตรวจวัด ซึ่งถือเป็นประเด็นกังวลในเรื่องผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยโดยมีการกำจัด APEO และการลดสิ่งเจือปน
PFOA คืออะไร?
PFOA ใช้เป็นสารอิมัลซิฟายเออร์เพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์เมื่อผลิตฟลูออโรโพลิเมอร์ และยังเป็นสิ่งเจือปนที่ประกอบอยู่ในสารกันน้ำและน้ำมันที่มีองค์ประกอบของฟลูออรีนด้วย เป็นสารที่พบได้ในโลหิตมนุษย์และสัตว์ป่า และมักได้พบได้มากในสิ่งแวดล้อม
อะไรคือความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ PFOA?
เนื่องจาก PFOA มีแนวโน้มสะสมภายในร่างกายและมีแนวโน้มเป็นสาเหตุของความเป็นพิษ จึงต้องได้รับการทดสอบต่างๆ เพื่อประเมินความเสี่ยง ในช่วงเวลาที่มีการประกาศการตรวจสอบความเสี่ยงเบื้องต้นโดยสำนักงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา (USEPA) และรายงานร่างประเมินความเสี่ยงที่เปิดเผยเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2548 ผลการประเมินความปลอดภัยของ PFOA ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายมนุษย์ยังไม่สามารถกำหนดได้อย่างชัดเจน
PFHxA คืออะไร?
กรดเพอร์ฟลูออโรเฮกซาโนอิก CF3-CF2-CF2-CF2-CF2-COOH. อาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์™ เป็นโคโพลิเมอร์ที่ใช้โมโนเมอร์ที่มีองค์ประกอบของฟลูออรีนซึ่งประกอบด้วยสารประกอบคาร์บอนเลขอะตอม 6 สารเคมีขั้นสุดท้ายที่เกิดขึ้รหลังจากโพลิเมอร์และโมโนเมอร์แบ่งตัวตามธรรมชาติคือ PFHxA (กรดเพอร์ฟลูออโรเฮกซาโนอิก) แนวโน้มความเป็นพิษและการสะสมทางชีวภาพของ PFHxA ได้รับการยืนยันแล้วว่าน้อยกว่า PFOS และ PFOA
PFOS คืออะไร?
กระบวนการสังเคราะห์ทางอุตสาหกรรมสำหรับสารประกอบฟลูออรีนที่เป็นวัตถุดิบสำคัญของสารกันน้ำและน้ำมันที่มีองค์ประกอบของฟลูออรีนประกอบด้วยการเทโลเมอร์ไลเซชันและการสร้างสารประกอบฟลูออรีนจากกระบวนการอิเล็กโทรไลติก ขณะที่วัตถุดิบสำคัญของอาซาฮีการ์ด และอาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์ ™ ผลิตขึ้นโดยใช้การเทโลเมอร์ไลเซชันนั้น PFOS (กรดเพอร์ฟลูออโรออกเทนซัลโฟนิก) ก็เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงสารกันน้ำและน้ำมันที่มีองค์ประกอบของฟลูออรีนที่ผลิตโดยใช้การสร้างสารประกอบฟลูออรีนจากกระบวนการอิเล็กโทรไลติก และยังเป็นผลิตภัณฑ์จากการย่อยสลายขั้นสุดท้ายของสารกันน้ำและน้ำมันที่มีองค์ประกอบของ PFOS ซึ่งไม่ได้ผลิตแล้ว
ทำไมสารกันน้ำและน้ำมันที่มีองค์ประกอบของฟลูออรีนจึงสามารถป้องกันน้ำและน้ำมันได้?
หากแรงตึงผิวของพื้นผิวของของแข็งนั้นต่ำกว่าแรงตึงผิวของของเหลว ก็จะมีการสร้างคุณสมบัติการป้องกันของเหลวขึ้นมา กลุ่มเพอร์ฟลูออโร อัลคิล (กลุ่ม Rf) ที่ใช้ในสารกันน้ำและน้ำมันที่มีองค์ประกอบของฟลูออรีนมีแรงตึงผิวต่ำที่สุดในบรรดาสารเหล่านั้น จึงทำให้สามารถป้องกันไม่เพียงแต่น้ำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงของเหลวที่มีความสามารถในการซึมผ่านสูงอย่างน้ำมันด้วย
อาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์™ ใช้งานอะไรได้บ้าง?
อาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์™ สามารถใช้กับสิ่งทอและกระดาษ ตลอดจนเส้นใยที่ไม่ถักทอและหนัง ในส่วนของการใช้งานนั้น สามารถใช้งานได้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท รวมถึงการผลิตเสื้อผ้าทั่วไป ชุดกีฬา ร่ม บรรจุภัณฑ์อาหาร กระดาษ การใช้ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนยานยนต์และไส้กรอง และยังพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง
หาซื้ออาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์™ และอาซาฮีการ์ดได้ที่ไหน?
บริษัท เมเซ เคมิคอลส์ จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายของเราในประเทศญี่ปุ่น รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายของเราในประเทศของท่าน โปรดติดต่อเรา (คลิกที่นี่)
สถานะการขึ้นทะเบียนของอาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์™ เป็นสารเคมีในแต่ละประเทศเป็นอย่างไร?
อาซาฮีการ์ด อี-ซีรีส์™ ขึ้นทะเบียนเป็นสารเคมีในประเทศญี่ปุ่นและในอีกหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดสอบถามเรา(คลิกที่นี่)

LUMIFLON™

What features does LUMIFLON™ offer?
LUMIFLON™ offers basic fluorine properties such as weatherability and chemical resistance. It differs from standard fluoropolymers in that it is solvent-soluble, hardens at room temperature, and can be applied to wide variety of substrates.
What are the main advantages of using LUMIFLON™?
Superior weatherability provided by fluoropolymers in paints or coatings provides long-term protection for painted objects, keeps them looking attractive, and can drastically reduce maintenance costs.
Why does LUMIFLON™ provide excellent weatherability?
LUMIFLON™ is an alternating copolymer of fluorinated monomer and vinyl ether. This structure offers superior weatherability due to its stronger interatomic bond compared to the irradiation energy of UV light.
How does LUMIFLON™ differ from standard fluoropolymers?
It is generally said fluoropolymers exhibit strong weatherability, but LUMIFLON™, features an FEVE (fluoroethylene/vinyl ether) alternating copolymer as its principle chain, shows affinity with various kinds of solvents while retaining strong weatherability. This means that the various functionality offered by fluoropolymers can be used in a wide variety of scenarios like as a paint or coating.
How does LUMIFLON™ differ from standard resins for coatings, such as acrylic and urethane?
LUMIFLON™ features a strong binding energy to prevent degradation caused by ultraviolet light, resulting in superior weatherability that is a step above other resin products.
What grades of LUMIFLON™ are available?
Solvent grades, waterborne (emulsion/dispersion) grades, and flake/solid grades are available. We can suggest a grade that suits your usage environment. Please contact us for details.
How do the different LUMIFLON™ products differ?
We have an extensive product lineup characterized by differences in solid content concentration, molecular weight, solvent type, coating properties (elasticity and hardness), hardening type (one-liquid and two-liquid types), and more. For details, please contact us for details.
How can LUMIFLON™ based paint be applied?
LUMIFLON™ based paint can be applied in a wide range of temperatures, from room temperature to baking. It can be applied using a variety of painting methods, including field painting using paintbrushes or rollers, or shop painting with sprayers or curtain flow coaters. It can also be applied to a wide variety of materials, such as metal, concrete, ceramic siding, FRP, or plastic.
Can LUMIFLON™ be used as is as a paint or coating?
LUMIFLON™ cannot be used by itself for this purpose. For paints and coatings, LUMIFLON™ forms the resin component of a mixture that includes resin, pigment, and various additives. In addition to introducing standard paint formulations, we can also provide technical services to support your product development needs.
Where can paints and coatings that use LUMIFLON™ be purchased?
We can introduce paint manufacturers. Please contact us for details.
Where can LUMIFLON™ be purchased?
We globally sell LUMIFLON™ through our affiliates in your region. We also provide technical services such as paint formulations. For details, please contact our regional sales department.
How much does LUMIFLON™ cost?
There are many grades of LUMIFLON™. Please contact us for detailed information.

AFLAS®

ความแตกต่างระหว่าง FKM กับ AFLAS®
AFLAS® เป็นการประโยชน์จากความทนทานต่อสารเคมีที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด่างต่างๆ เช่น เอมีน แอมโมเนีย โซดาไฟ ฯลฯ
การปล่อยก๊าซ
AFLAS® มีระดับที่คล้ายคลึงกับแบบปล่อยก๊าซต่ำของ FKM
ความต้านทานพลาสมา
AFLAS® ใช้ได้เหมือนกับเพอร์ฟลูออโรอิลาสโตเมอร์ ขึ้นอยู่กับสภาพการทำงาน
การใช้งานที่มีการสัมผัสกับอาหาร
โพลิเมอร์ AFLAS® 100 S สอดคล้องกับมาตรฐาน USP class VI การกำหนดมาตรฐานของแต่ละเกรดผ่านการตรวจสอบตามคำสั่งที่ 85 ของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น
การใช้งาน
AFLAS® ใช้เป็นซีลน้ำมันในอุตสาหกรรมรถยนต์เนื่องจากคุณสมบัติทนทานต่อด่างที่ดีเยี่ยม AFLAS® ยังใช้กับซีลเชิงกลที่เป็นโอริงและปะเก็นด้วย AFLAS® 150 series ใช้สำหรับฉนวนกันความร้อนของสายไฟฟ้าและสายเคเบิล เนื่องจากมีความต้านทานไฟฟ้าสูงกว่า 10~15ohm-cm
การยึดเหนี่ยวกับอิลาสโตเมอร์อื่น
AFLAS® สามารถยึดเหนี่ยวกับยางซิลิคอรและยางอะคริลิกได้
ไพรเมอร์สำหรับการดึงดูดโลหะ
ไพรเมอร์ควรเลือกตามเกรด AFLAS® ดังนี้
ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่าง

[ AFLAS® 100/150 Series ]
(1) Metaloc S-10A, จาก Toyo Kagaku Kenkyujo
(2) Monicas MP-204, จาก Yokohama Kobunshi Kenkyujo
(3) Monicas MP-205, จาก Yokohama Kobunshi Kenkyujo

[ AFLAS® 200 Series ]
(1) Chemloc Y-4310, จาก Load
(2) Chemloc 607, จาก Load
(3) Monicas VT-200, จาก Yokohama Kobunshi Kenkyujo
มีสูตรแนะนำสำหรับ AFLAS® หรือไม่?
ต้องใช้สารเปอรอกไซด์ที่เหมาะสม เราแนะนำให้ใช้ 1,3-bis (t-butylperoxy)-diisopropylbenzene
AFLAS® ใช้ทำสีผสมได้หรือไม่?
ขณะที่สามารถใช้สำหรับสีผสมในแบบเดียวกับยางทั่วไปได้ สีของโพลิเมอร์หลักอาจส่งผลต่อสีผสมที่สว่างระหว่างกระบวนการหลังบ่ม แนะนำให้ใช้เม็ดสีอนินทรีย์ที่ทนความร้อนเนื่องจาก AFLAS® ต้องผ่านกระบวนการหลังบ่มที่อุณหภูมิสูงกว่า 200 deg.C
สารช่วยในกระบวนการผลิต
แนะนำให้ใช้โซเดียม สเตียเรตกับ AFLAS® 100, 150 และ 200 Series.แนะนำให้ใช้ ACPE กับ AFLAS® เพื่อเพิ่มการไหล
วิธีการขึ้นรูป
AFLAS® ผสมกับส่วนประกอบต่างๆ โดยใช้เครื่องนวดยาง, เครื่องบด 2 ลูกกลิ้ง ฯลฯ และขึ้นรูปโดยการอัด อัดรีด และวิธีขึ้นรูปอื่นๆ คล้ายกับอิลาสโตเมอร์อื่นๆ
การผสม
ใช้โซเดียม สเตียเรตควรกระจายได้ดีในสารผสม มิฉะนั้นอาจทำให้เกิดโฟมได้
การหดตัวเมื่ออัดขึ้นรูป
การหดตัวเหมือนกับ FKM และอยู่ระหว่าง 2.5 ถึง 3.0 % ขึ้นอยู่กับสูตร
การถอดออกจากแม่พิมพ์
แนะนำให้ใช้สารถอดแม่พิมพ์ภายนอกTrasys 818 (จาก DuPont) กับ AFLAS® 100 และ 150 Series
ผลิตภัณฑ์จาก: สารประกอบ / โพลิเมอร์
AFLAS® มีจำหน่ายทั้งในรูปโพลิเมอร์และสารประกอบ รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อเรา

Fluon®

ฟลูออโรโพลิเมอร์คืออะไร?
ฟลูออโรโพลิเมอร์เป็นพลาสติกประสิทธิภาพสูงเป็นพิเศษที่ประกอบด้วยคุณสมบัติทั้งหมดต่อไปนี้: ทนความร้อน, ทนความเย็น, ทนทานต่อสารเคมี, ต้านทานเปลวไฟ, ความเป็นฉนวนไฟฟ้า, แรงเสียดทานต่ำ, ไม่ยึดติด, ความต้านทานต่อการเปลี่ยนสภาพโดยลม ฟ้า อากาศ และอื่นๆ รายละเอียดเพิ่มเติม ดูที่หน้า "คุณสมบัติของฟลูออโรโพลิเมอร์"
มีฟลูออโรโพลิเมอร์ประเภทใดบ้าง?
Fluon® PTFE

เป็นประเภททั่วไปของฟลูออโรโพลิเมอร์ซึ่งคิดเป็น 60 ถึง 70% ของความต้องการทั้งหมด และเป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย เป็นเรซินที่มีคุณสมบัติทั่วไปของฟลูออโรโพลิเมอร์ที่ครบถ้วนที่สุด วิธีการขึ้นรูปทั่วไปคือการอัดขึ้นรูปโดยเครื่องจักรเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
ชื่อทางเคมี: โพลิเตตราฟลูออโรเอทิลีน

Fluon® PFA

ขณะที่มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับ Fluon® PTFE ผลิตภัณฑ์นี้เป็นฟลูออโรโพลิเมอร์สำหรับการหลอมขึ้นรูปแม้แต่รูปทรงที่ซับซ้อน
ชื่อทางเคมี: เพอร์ฟลูออโรอัลคอกซีอัลเคน (โคโพลิเมอร์เรซินของเตตราฟลูออโรเอทิลีน และเพอร์ฟลูออโรอัลคิล ไวนิล เอเทอร์)

Fluon® ETFE
โคโพลิเมอร์เรซินของเอทิลีนและเตตราฟลูออโรเอทิลีน มีคุณลักษณะอันโดดเด่นมากกว่าในเชิงแรงต้านทานเชิงกล ความต้านทานการแผ่รังสี และความสามารถในการขึ้นรูป Fluon® LM-ETFE ผลิตภัณฑ์ที่มีจุดหลอมเหลวต่ำที่มีความสามารถในการขึ้นรูปสูงกว่า ยังผลิตและมีวางจำหน่ายด้วย นอกจากนี้ Fluon® ETFE Film และ F-CLEAN® ผลิตโดยการแปรรูป Fluon® ETFE มีวางจำหน่ายในรูปของฟิล์มฟลูออริเนต
ชื่อทางเคมี: เอทิลีน-เตตราฟลูออโรเอทิลีน โคโพลิเมอร์

ฟลูออโรโพลิเมอร์อื่นๆ ประกอบด้วย:
FEP (เพอร์ฟลูออโรเอทิลีน-โพรพีน โคโพลิเมอร์)
PVdF (โพลิไวนิลเลดีน ฟลูออไรด์)
ECTFE (เอทิลีน-คลอโรไตรฟลูออโรเอทิลีน โคโพลิเมอร์)
จะเลือกฟลูออโรโพลิเมอร์ Fluon® ที่เหมาะสมได้อย่างไร?
วิธีการเลือกที่ถูกต้องคือการเลือกตามวิธีขึ้นรูปโดยยึดคุณสมบัติที่จำเป็นและรูปทรงของผลิตภัณฑ์
ฟลูออโรโพลิเมอร์แข็งแค่ไหน?
โดยทั่วไป ฟลูออโรโพลิเมอร์แข็งกว่าอิลาสโตเมอร์ แต่นิ่มกว่าพลาสติกส่วนใหญ่ แผนภาพต่อไปนี้เปรียบเทียบความแข็งของ Fluon® ฟลูออโรโพลิเมอร์อื่นๆ และพลาสติกทั่วไป
<การทดสอบความแข็งของร็อคเวลล์>
PTFE: 20
PFA: 50
ETFE: 50
ความถ่วงจำเพาะของฟลูออโรโพลิเมอร์ Fluon® อยู่ที่เท่าใด?
ความถ่วงจำเพาะของฟลูออโรโพลิเมอร์อยู่ที่ 1.7 ∼ 2.2 มากกว่าพลาสติกอื่นๆ
การใช้งานอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
สารเคมีหลายชนิดถูกนำใช้ในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
ฟลูออโรโพลิเมอร์มีความทนทานต่อสารเคมีเป็นเยี่ยมและถูกใช้งานในรูปแบบต่างๆ ทั้งเป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบที่สัมผัสกับกรดแก่หรือเอมีนแก่
ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ชิ้นส่วนเหล่านี้ไม่ควรสร้างความเสียหายให้กับความบริสุทธิ์ของสารเคมีต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
ฟลูออโรโพลิเมอร์ถูกใช้เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดต่อไปนี้
Fluon® PTFE และ Fluon® PFA ถูกใช้เป็นหลักในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เป็นภาชนะบรรจุสารเคมี ท่อ ข้อต่อท่อ วัสดุบุถัง ถัง ตัวบรรจุเวเฟอร์ วาล์ว ปั๊ม ลูกสูบ ไดอะแฟรม ไส้กรอง ตัวเรือน ฯลฯ
การใช้งานอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
การกระจายตัวในน้ำของ Fluon® PTFE ถูกใช้สำหรับสารออกฤทธิ์ยึดเหนี่ยวในแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้ซึ่งใช้ในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และแบตเตรี่นิกเกิล-แคดเมียม
ฟลูออโรโพลิเมอร์มีความทนทานต่อสารเคมี ความเสถียรทางความร้อน และความไม่ติดไฟยอดเยี่ยมซึ่งจำเป็นในสถานการณ์รุนแรงจากสารเคมีภายในแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้
Fluon® PFA ถูกใช้เป็นวัสดุอัดภายในแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และเป็นแม่พิมพ์ขนาดเล็กและซับซ้อน นอกจากความทนทานต่อสารเคมีและความเสถียรทางความร้อน
แบตเตอรี่เหล่านี้ถูกใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส่วนตัวล่าสุด เช่น โทรศัทพ์มือถือ โน๊ตบุ้ก และเครื่องเล่นแผ่นดิสก์ขนาดเล็กพกพา
ฟลูออโรโพลิเมอร์ยังถูกใช้และคาดว่าจะใช้กันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็นสารยึดเกาะ ฯลฯ ในเซลล์เชื้อเพลิงที่คาดว่าจะเป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์และการใช้งานด้านอื่นๆ อีกมากมาย
การใช้งานอุตสาหกรรมรถยนต์
ในอุตสาหกรรมรถยนต์นั้น ฟลูออโรโพลิเมอร์ถูกใช้เพื่อผลิตส่วนประกอบต่างๆ เมื่อต้องการแรงเสียดทานต่ำ จะใช้ฟลูออโรโพลิเมอร์กับผ้าเบรก เกียร์อัตโนมัติ และกระปุกเกียร์ และในซีลพวงมาลัย หากต้องการใช้คุณสมบัติ
ความเสถียรทางความร้อนและคุณสมบัติเชิงไฟฟ้าที่ดี จะใช้ฟลูออโรโพลิเมอร์กับฉนวนสายไฟของระบบไฟฟ้า หากหากต้องการใช้คุณสมบัติด้านความทนทานต่อสารเคมี จะใช้ฟลูออโรโพลิเมอร์กับชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบเชื้อเพลิง
การใช้งานในอุตสาหกรรมอาหาร
Fluon® PTFE และ PFA เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในระเบียบของสหรัฐอเมริกา 21CFR§177.1550 โดยเป็นวัตถุเจือปนอาหารทางอ้อม Fluon® ETFE จดทะเบียนในรายการ FCS (สารสัมผัมอาหาร) ขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และได้รับเลข FCN ในญี่ปุ่นนั้น ก็เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายสุขอนามัยอาหารของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการตามประกาศฉบับที่ 370
* รายละเอียดแต่ละข้อไม่รวมเกรดต่างๆ รายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขการใช้งาน โปรดสอบถามเรา
การใช้งาน Fluon® PTFE
แม้ว่า PTFE เป็นฟลูออโรโพลิเมอร์สมบูรณ์ที่สุดในรอบกว่า 60 ปีนับตั้งแต่มีการผลิตจำหน่ายเชิงพาณิชย์ แต่ก็ยังมีการใช้งานใหม่ๆ เกิดขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากคุณสมบัติอันโดดเด่นต่างๆ ของฟลูออโรโพลิเมอร์ที่ให้ประโยชนในทุกด้าน
Fluon® PTFE ถูกใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมแปรรูปสารเคมี อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมไฟฟ้า และอุตสาหกรรมสิ่งทอ ยังมีการใช้งานในเครื่องจักรและใช้เป็นสารเคลือบสายไฟด้วย ผง PTFE ถูกใช้เป็นสารเติมแต่งในตัวกลางอื่นๆ เช่น พลาสติก อิลาสโตเมอร์ สี และจาระบีเพื่อเพิ่มแรงเสียดทานและความไม่ติดไฟ
นอกจากนี้ยังมี PTFE ในรูปผงและแบบกระจายตัวในน้ำวางจำหน่ายด้วย
สารประกอบที่เติม PTFE เป็น PTFE อีกประเภทหนึ่งที่เหมาะกับการใช้งานที่ต้องเพิ่มความต้านทานการเปลี่ยนรูปร่างและลดการสึกหรอ
การใช้งาน Fluon® PFA
Fluon® PFA มีคุณสมบัติคล้ายคลึงมากกับ Fluon® PTFE และนอกจากนี้ Fluon® PFA ยังหลอมขึ้นรูปได้ การใช้งาน Fluon® PFA ส่วนมากอยู่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในส่วนต่างๆ เช่น ท่อ ข้อต่อ ตัวบรรจุเวเฟอร์ และถังของเครื่องจักรและเครื่องมือการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากการใช้งานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
การใช้งานหลักอีก 2 ประการคือ เครื่องจักร/อุปกรณ์สำนักงาน และแพคกิ้งแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน
การใช้งาน Fluon® ETFE
Fluon® ETFE โคโพลิเมอร์ของเอทิลีนและเตตราฟลูออโรเอทิลีน มีคุณสมบัติเชิงกลและความต้านทานการแผ่รังสีดีเยี่ยม เนื่องด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ Fluon® ETFE จึงถูกใช้เป็นฉนวนสายไฟในหุ่นยนต์ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ และในเครื่องมือวัดต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
Fluon® ETFE Film และ F-CLEAN® เป็นฟิล์มที่ทำจาก Fluon® ETFE ฟิล์มเหล่ามีการใช้งานต่างๆ เช่น ฟิล์มป้องกันการยึดติด ฟิล์มตกแต่ง และเรือนกระจก
ผง Fluon® ETFE ก็มีวางจำหน่ายและใช้กันในอุตสาหกรรมแปรรูปสารเคมีและอุตสาหกรรมรถยนต์ ใช้เคลือบท่อและชิ้นส่วนโลหะอื่นๆ โดยใช้การเคลือบอิเล็กทโตรสเตติกหรือโรโตไลนิง อีกทั้งยังใช้ในการขึ้นรูปแบบโรโต
การใช้งาน Fluon® LM-ETFE มีอะไรบ้าง?
LM-ETFE เป็นรูปแบบที่พัฒนามาจาก ETFE พัฒนาขึ้นเองโดยเอจีซี คุณลักษณะสำคัญคือมีจุดหลอมเหลวต่ำขณะที่ทนความร้อนได้มากขึ้น คุณสมบัตินี้ใช้กันอย่างกว้างขวางในชิ้นส่วนรถยนต์ สารเคลือบสายไฟฟ้า การทำหลอดและท่อยาง และภาชนะต่างๆ AH series ใช้สำหรับท่อเชื้อเพลิงหลายชั้นสำหรับรถยนต์ที่เป็นไปตามข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดมากของอเมริกาเหนือ
วิธีขึ้นรูปสำหรับ Fluon® คืออะไร?
การอัดขึ้นรูป
เป็นวิธีการที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการขึ้นรูป Fluon® PTFE วิธีนี้นำมาใช้เนื่องจากแม้ว่า Fluon® PTFE ใช้งานได้ที่อุณหภูมิที่หรือสูงกว่าจุดหลอมเหลว แต่ก็มีความหนืดสูงมาก เรซินถูกเทลงในแม่พิมพ์และอัด จากนั้นจึงนำไปเผาไฟเพื่อให้อนุภาครวมเข้าด้วยกัน หลังจากนี้ ก็ถูกทำให้เย็นเพื่อให้เป็นแม่พิมพ์ หากแม่พิมพ์ที่มีรูปทรงที่มีรายละเอียดมากหรือซับซ้อน จะถูกตัดโดยเครื่องจักรเพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
เกรดที่เหมาะสม: PTFE (ผงขึ้นรูป), PTFE (สารประกอบเติม)

การอัดรีดขึ้นรูป
เป็นการขึ้นรูปอีกวิธีหนึ่งที่ใช้กับ Fluon® PTFE ใช้เมื่อต้องขึ้นรูปผงละเอียด เรซินจะรวมเข้ากับสารเสริม (อาจใช้แนฟทา) และกดเข้าไปในแม่พิมพ์ และอัดเข้าไปอีก โดยแม่พิมพ์อาจอยู่ในรูปหลอด ท่อ หรือเทป ต้องนำสารเสริมออกและเผาไฟจึงจะเสร็จสิ้นขั้นตอน
เกรดที่เหมาะสม: PTFE (ผงละเอียด)

การหลอมขึ้นรูป
Fluon® PFA, Fluon® ETFE, และฟลูออโรโพลิเมอร์อื่นๆ ที่เจือจางเมื่อถึงหรือเกินจุดหลอมเหลวอาจขึ้นรูปได้โดยใช้วิธีหลอมขึ้นรูปแบบเดียวกับเทอร์โมพลาสติกเรซินอื่นๆ การหลอมขึ้นรูปประกอบด้วยการอัดรีดขึ้นรูป การฉีดขึ้นรูป การเป่าขึ้นรูป การขึ้นรูปแบบกึ่งฉีด การขึ้นรูปแบบหมุน และวิธีอื่นๆ แต่ทั้งหมดนี้สามารถใช้ฟลูออโรโพลิเมอร์ที่เจือจางได้ อย่างไรก็ดี ความแตกต่างเมื่อขึ้นรูปกับพลาสติกอื่นๆ คือจุดหลอมเหลวสูงที่ทำให้อุณหภูมิการขึ้นรูปสูงขึ้นและความหนืดค่อนข้างสูงอันเป็นผลให้ความเร็วในการขึ้นรูปลดลง
เกรดที่เหมาะสม: PFA, ETFE, LM-ETFE

การขึ้นรูปมากกว่า 2 ชิ้น
ในอดีต การขึ้นรูปมากกว่า 2 ชิ้นที่ใช้ฟลูออโรโพลิเมอร์ไม่อาจทำได้ เนื่องจากลักษณะตามธรรมชาติที่ไม่ยึดติด อย่างไรก๋ดี Fluon® LM-ETFE AH Series พัฒนาโดยเอจีซีทำให้วิธีนี้เป็นไปได้ การหล่อเรซินอีกประเภทหนึ่งเข้ากับ AH Series ในแม่พิมพ์ขึ้นรูปชิ้นเดียว จากนั้นจึงทำการขึ้นรูป แม่พิมพ์ที่ได้ออกมานั้นจะมีความยึดติดที่ดีเยี่ยม
เกรดที่เหมาะสม: LM-ETFE AH Series

การขึ้นรูปด้วยผง
การใช้เรซินแบบผงจะทำให้แม่พิมพ์ยึดติดกับโลหะในรูปของสารเคลือบหรือชั้นบุ แม่พิมพ์เหล่านี้เหมาะการป้องกันการสึกกร่อนของโลหะ
เกรดที่เหมาะสม: ETFE แบบผง
มีฟลูออโรโพลิเมอร์แบบที่ผสมฟิลเลอร์หรือไม่?
มี มีรายการผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารประกอบผสมสำหรับ Fluon® PTFE ระดับประสิทธิภาพที่แตกต่างกันของคุณลักษณะ PTFE เป็นไปตามประเภทต่างๆ ของฟิลเลอร์ ทำให้สามารถใช้งานได้หลายรูปแบบ Fluon® ETFE ยังมีเกรดต่างๆ มากมายที่ประกอบด้วยสารผสมกับคาร์บอนแบล็ค คาร์บอนไฟเบอร์ เม็ดสี และฟิลเลอร์เพิ่มประสิทธิภาพอื่นๆ ที่สามารถใช้ในรูปแบบต่างๆ ที่ให้คุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น สภาพนำไฟฟ้า ความแข็งแกร่ง และการระบุสี
สามารถเคลือบฟลูออโรโพลิเมอร์ได้หรือไม่?
Can fluoropolymer coating be performed?
ได้ Fluon® ETFE แบบผงที่ใช้กับการขึ้นรูปแบบหมุนหรือการเคลือบแบบผงอิเล็กโตรสเตติกเพื่อเคลือบโลหะที่มีความหนาตั้งแต่หลายสิบถึงหลายร้อย µm PTFE ยังใช้กับการเคลือบอีนาเมลได้ จึงสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบโดยส่วนใหญ่ใช้เคลือบกระทะ
การทนความร้อนของ Fluon® เป็นอย่างไร?
ฟลูออโรโพลิเมอร์มีจุดหลอมเหลวสูงมาก ส่วนใหญ่ที่ 200℃ หรือสูงกว่า อุณหภูมิการใช้งานต่อเนื่องอยู่ตั้งแต่ 150℃ ถึง 261℃ ทำให้มีการทนความร้อนสูงสุดในบรรดาพลาสติก
ความทนทานต่อสารเคมีของ Fluon® เป็นอย่างไร?
ไม่ทำปฏิกิริยากับกรดแก่หรือด่างแก่ที่อุณหภูมิสูง หรือความเข้มข้นสูง และยังไม่ละลายน้ำเมื่อโดนตัวทำละลายด้วย
ความต้านทานแสงอัลตราไวโอเล็ตของ Fluon® เป็นอย่างไร?
การเสื่อมประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งอยู่ในระดับต่ำมาก และยังสามารถใช้ได้เป็นเวลานานต่อเนื่อง เมื่อโดนสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง สารต่างๆ จะมีผลต่างๆ ประกอบด้วยการย่อยสลายด้วยแสงและออกซิเดชันจากแสงอาทิตย์ และการขยายตัวและหดตัวจากอุณหภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ฟลูออโรโพลิเมอร์มีคุณสมบัติที่ต้านทานการเปลี่ยนแปลงหรือการเสื่อมสภาพในสภาพแวดล้อมดังกล่าว
ความต้านทานการแผ่รังสีของ Fluon® เป็นอย่างไร?
เรซินส่วนใหญ่ที่ก่อรูปโดยการยึดเหนี่ยวระหว่างอะตอมคาร์บอนและอะตอมฟลูออรีน เช่น PTFE, PFA, และ FEP โดยทั่วไปจะย่อยสลายเมื่อถูกรังสีและไม่สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ อย่างไรก็ดี Fluon® ETFE เป็นโคโพลิเมอร์ของเตตราฟลูออโรเอทิลีนและเอทิลีน เนื่องจากเอทิลีนก่อให้เกิดปฏิกิริยาแบบเชื่อมข้ามเมื่อถูกรังสี แต่ก็แทบจะไม่ย่อยสลายเลยแม้จะถูกฉายรังสี
ด้วยคุณสมบัตินี้ Fluon® ETFE จึงถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในการผลิตสายไฟฟ้าฉนวนที่ต้องการความต้านทานการแผ่รังสีนอกเหนือจากการทนความร้อนและไอน้ำ ในพื้นที่ที่อยู่ใกล้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์
ค่าคงที่ไดอิเล็กทริก มุมสัมผัสไดอิเล็กทริก และสมบัติความเป็นฉนวนไฟฟ้าคืออะไร?
มีความต้านทานเปลวไฟและคุณสมบัติเชิงไฟฟ้าสูงซึ่งเป็นมาตรฐานของหลายอุตสาหกรรม ค่าคงที่ไดอิเล็กทริกของฟลูออโรโพลิเมอร์ต่ำที่สุดในบรรดาพลาสติกโดยไม่เปลี่ยนแปลงเลยตามช่วงความถี่ ความต้านทานไฟฟ้ายังอยู่ในระดับสูงเกินขีดจำกัดการวัด
คุณสมบัติการยึดติดคืออะไร?
ฟลูออโรโพลิเมอร์จริงๆ แล้วมีคุณสมบัติไม่ยึดติด และมีลักษณะที่ยากต่อการยึดเหนี่ยว แต่ Fluon® ETFE/LM-ETFE เอเอช เกรดมีคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้สามารถยึดติดกับโลหะหรือเรซินได้ รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานโปรดสอบถามเรา
คุณสมบัติความปลอดภัยของ Fluon® คืออะไร?
กรณีกลืนกิน
ทั้งนี้ทราบกันโดยทั่วไปว่าใช้เป็นสารเคลือบสำหรับกระทะ คุณสมบัติความปลอดภัยของฟลูออโรโพลิเมอร์จึงได้รับการยืนยันจากการทดลองต่างๆ ดังต่อไปนี้ สัดส่วน 25% ของ PTFE แบบผงละเอียดผสมกับอาหารที่ให้หนูทดลองเป็นเวลา 90 วัน โดยไม่พบพิษหรือการเปลี่ยนแปลงด้านพยาธิวิทยา/กายภาพ ฟลูออโรโพลิเมอร์ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี และแม้ว่าจะกลืนกินเข้าไปก็ไม่แตกตัวหรือทำปฏิกิริยา และก่อให้เกิดสารพิษ แต่จะเคลื่อนผ่านร่างกายออกมา

กรณีเผาไหม้หรือย่อยสลายด้วยความร้อน
ตามที่ระบุไว้ในหน้า "คุณสมบัติ" ฟลูออโรโพลิเมอร์เป็นพลาสติกที่มีความต้านทานเปลวไฟสูงมาก อย่างไรก็ดี หากโดนอุณหภูมิสูงจนเกินจุดหลอมเหลว ก็จะเริ่มย่อยสลายด้วยความร้อนและก่อให้เกิดผลผลิตจากการย่อยสลาย ในกรณีของ PTFE (จุดหลอมเหลว: 327℃) การย่อยสลายจะถูกเร่งตั้งแต่ 400℃ และผลผลิตจากการย่อยสลายจะสามารถตรวจพบได้ สารต่างๆ เช่น เตตราฟลูออโรเอทิลีนและเฮกซาฟลูออโรโพรลิลีนจะถูกพบเป็นลำดับแรก จากนั้นเป็นเพอร์ฟลูออโรไอโซบิวตีลีนที่ราว 480°C และก๊าซคาร์โบนิลฟลูออไรด์ที่ราว 500°C ก๊าซจากการย่อยสลายเหล่านี้มีพิษไม่มากก็น้อยโดยเพอร์ฟลูออโรไอโซบิวตีลีนและคาร์โบนิลฟลูออไรด์มีพิษมาก แม้ว่าฟลูออโรโพลิเมอร์จะต้านทานเปลวไฟได้ แต่ก็ต้องระวังก๊าซที่เป็นพิษมากเหล่านี้หากมีกองเพลิงขนาดใหญ่ใกล้กับฟลูออโรโพลิเมอร์
ประเด็นสำคัญต่างๆ ในการแปรรูป
แม้ว่าแทบจะไม่มีอันตรายจากก๊าซย่อยสลายที่เป็นพิษสูงภายใต้สภาพการแปรรูปฟลูออโรโพลิเมอร์ปกติ เราก็เคยได้ยินกรณีที่สารที่เป็นผงถูกปล่อยออกมา ซึ่งอาจก่อให้เกิด "โรคจากควันโพลิเมอร์" ในร่างกายมนุษย์
หากสูดดมผลผลิตที่เกิดจากการย่อยสลายฟลูออโรโพลิเมอร์เข้าไปไปเวลานาน (หรือเวลาสั้นๆ แต่มีความเข้มข้นสูง) ก็อาจมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งแปลว่าเป็น "โรคจากควันโพลิเมอร์" สภาพนี้จะปรากฏออกมาหลังระยะฟักตัวที่กินเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากนั้นอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงและหายไปโดยสิ้นเชิงภายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมง แทบจะมีผลต่อเนื่องยาววนาน การถ่ายเทอากาศที่เหมาะสมในสถานที่ปฏิบัติงานเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในการป้องกันเหตุดังกล่าว
แม้ว่ามักจะใช้ในปริมาณน้อยและในสภาพที่การถ่ายเทอากาศตามธรรมชาตินั้นเพียงพออยู่แล้วสำหรับสถานที่ปฏิบัติงาน แต่เราแนะนำให้ติดตั้งอุปกรณ์ระบายอากาศรอบๆ เครื่องมือที่ใช้ปฏิบัติงานเพื่อความปลอดภัย
ความปลอดภันสำหรับการใช้งานที่เกี่ยวกับอาหารเป็นอย่างไร?
Fluon® PTFE และ PFA เป็นไปตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในระเบียบของสหรัฐอเมริกา 21CFR§177.1550 โดยเป็นวัตถุเจือปนอาหารทางอ้อม Fluon® ETFE จดทะเบียนในรายการ FCS (สารสัมผัมอาหาร) ขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) และได้รับเลข FCN ในญี่ปุ่นนั้น ก็เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายสุขอนามัยอาหารของกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการตามประกาศฉบับที่ 370
* รายละเอียดแต่ละข้อไม่รวมเกรดต่างๆ รายละเอียดเพิ่มเติมและเงื่อนไขการใช้งาน โปรดสอบถามเรา
วิธีกำจัดฟลูออโรโพลิเมอร์คืออะไร?
ฟลูออโรโพลิเมอร์ปล่อยก๊าซที่เป็นพิษเมื่ออยู่ในอุณหภูมิสูง โปรดสอบถามกฎระเบียบด้านการกำจัดของเสียในประเทศของคุณเพื่อกำจัดของเสียจากผลิตภัณฑ์ฟลูออโรโพลิเมอร์ได้อย่างเหมาะสมที่สุด

Fluon® ETFE Film

Fluon® ETFE Film ปลอดภัยหรือไม่?
กรณีกลืนกินเข้าไป
ฟลูออโรโพลิเมอร์นิยมใช้เป็นสารเคลือบกระทะ และมีการทดสอบหลายครั้งเพื่อยืนยันความปลอดภัย ผง PTFE ละเอียดสัดส่วน 25% ผสมเข้ากับอาหารจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการเป็นเวลา 90 วัน โดยไม่พบการเกิดพิษหรือการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิวิทยา/กายภาพ
ฟลูออโรโพลิเมอร์มีความทนทานต่อสารเคมี และแม้จะกลืนกินเข้าไปทางปากก็จะไม่เสื่อมสภาพ หรือทำปฏิกิริยาและก่อให้เกิดสารพิษ แต่สามารถเคลื่อนออกจากร่างกายได้

กรณีเกิดการเผาไหม้หรือย่อยสลายด้วยความร้อน
PTFE, ETFE, PFA มีระดับความไม่ไวไฟสูง
อย่างไรก็ดี เมื่อฟลูออโรโพลิเมอร์โดนความร้อนเกินกว่าจุดหลอมละลาย ก็จะเริ่มย่อยสลายและปล่อยสารเคมีจากการย่อยสลายออกมา
ในกรณีของ PTFE (จุดหลอมละลายt: 327℃), การย่อยสลายเกิดขึ้นที่อุณหภูมิ 400℃ และจะตรวจพบสารเคมีจากการย่อยสลายได้
ในเบื้องต้นตรวจพบเตตราฟลูออโรเอทิลีน และเฮกซาฟลูออโรโพรพิลีน จากนั้นจึงตรวจพบเพอร์ฟลูออโร ไอโซบิวทิลีนที่อุณหภูมิ 480℃ และจากนั้นจะตรวจพบคาร์โบนิลฟลูออไรด์ที่อุณหภูมิ 500℃
ก๊าซจากการย่อยสลายเหล่านี้เป็นพิษในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะเพอร์ฟลูออโร ไอโซบิวทิลีน แลคาร์โบนิลฟลูออไรด์ที่เป็นพิษสูง
แม้ว่าฟลูออโรโพลิเมอร์เป็นสารหน่วงไฟ แต่จะเกิดก๊าซพิษในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ใหญ่ และต้องมีป้องกันความปลอดภัยด้วย

หมายเหตุที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน
แม้ว่ามีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยจากก๊าซพิษจากการย่อยสลายที่อุณหภูมิการใช้งานทั่วไป แต่ก็ก่อสารระดับอนุภาค ซึ่งถือเป็นสาเหตุของสภาวะที่เรียกว่า "โรคจากควันโพลิเมอร์" ต่อร่างกายมนุษย์
อาการของโรคดังกล่าวคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่ ก๊าซที่ย่อยสลายด้วยความร้อนจากฟลูออโรโพลิเมอร์เกิดขึ้นระหว่างการใช้งานไม่ว่าในเวลาอันสั้นหรือยาว และก๊าซความเข้มข้นสูงเกิดขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งเรียกว่า "ควันโพลิเมอร์" แม้ว่าสภาวะเช่นนี้มีระยะการฟักตัวหลายชั่วโมงและหลังจากนั้นสภาวะนี้จะค่อยๆ หายไป และหลังจากนั้นจะหายไปอย่างสิ้นเชิงภายใน 24 - 48 ชั่วโมงและไม่มีอาการเจ็บป่วยตามมา เพื่อป้องกันโรคจากควันโพลิเมอร์ แนะนำให้ติดตั้งระบบระบายอากาศที่เหมาะสมในบริเวณปฏิบัติงาน
แม้ว่าการระบายอากาศตามธรรมชาติอาจเพียงพอแล้วในหลายกรณี ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์การใช้งานที่ติดตั้งเมื่อใช้โพลิเมอร์ในปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่ก็แนะนำให้ติดตั้งระบบระบายอากาศเฉพาะที่ (LEV) เพื่อให้แน่ใจว่าได้ป้องกัน "โรคจากควันโพลิเมอร์" ได้อย่างเด็ดขาด
จะกำจัด Fluon® ETFE Film ได้อย่างไร?
ฟลูออโรโพลิเมอร์สร้างก๊าซพิษเมื่อโดนความร้อนในอุณหภูมิสูง โปรดศึกษาระเบียบการจำกัดของเสียในประเทศของคุณว่าวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดของเสียจากผลิตภัณฑ์ฟลูออโรโพลิเมอร์เหล่านี้คืออะไร
เราสามารถซื้อในรูปแบบใดได้บ้าง?
มีแบบม้วนใหญ่ ม้วนเล็ก และแผ่นเรียบ โปรดสอบถามจำนวนสั่งซื้อขั้นต่ำของแต่ละเกรด

CYTOP™

ช่วยบอกวิธีเพิ่มการยึดติดเมื่อใช้ CYTOP™ กับตัวกลาง (substrate) ที่เป็นพลาสติก
สามารถเพิ่มการยึดติดโดยใช้ CYTOP™ primer "CT-P10" อย่างไรก็ดี เนื่องจากไพร์มเมอร์ประกอบด้วยโทลูอีน จึงไม่สามารถส่งออกจากประเทศญี่ปุ่นได้ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ช่วยบอกวิธีเพิ่มการยึดติดเมื่อใช้ CYTOP™ กับกระจก ซิลิโคน หรือตัวกลาง (substrate) จำพวกอนินทรีย์
สามารถเพิ่มการยึดติดโดยใช้สารควบคู่ไซเลนที่มีองค์ประกอบของอะมิโน (ตัวอย่าง: "KBE-903" จาก Shin-Etsu Chemical Co.,Ltd.) โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ช่วยบอกวิธีการสร้างรูปแบบ CYTOP™
CYTOP™ สร้างแบบขึ้นโดยกระบวนการกัดกร่อนที่ใช้ก๊าซออกซิเจน โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ช่วยบอกวิธีการแยก CYTOP™
CYTOP™ สามารถแยกด้วย "การกัดกร่อนด้วยออกซิเจน" "การฉายรังสียูวี + การอาบด้วยอัลตร้าโซนิก" หรือ "ตัวทำละลาย CYTOP™" โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ช่วยบอกคุณลักษณะการเคลือบของ CYTOP™ (น้ำหนักโมเลกุล ความหนาแน่น และความหนาของฟิล์มแห้ง ต่อความเร็วในการหมุนหรือความเร็วในการดึง
เรามีข้อมูลเกี่ยวกับความหนาของฟิล์มสำหรับการหมุนเคลือบและจุ่มเคลือบ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ความหนืดต่อสารละลายเจือจาง น้ำหนักโมเลกุล และความหนาแน่นของ CYTOP™ อยู่ที่เท่าไร?
ค่าความหนืดต่อความหนาแน่นได้มีการตรวจวัดแล้ว โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ช่วยบอกเงื่อนไขการ curing ของ CYTOP™
สภาพการอบที่เหมาะที่สุดแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความหนาของฟิล์ม ตัวกลาง (substrate) กระบวนการ ฯลฯ โดยทั่วไปแล้ว หลังจาก "การผึ่งด้วยอากาศ" จะดำเนินการ "อบก่อน" เพื่อ "การพักและการแยกสารทำละลายออก" ต่อด้วย "การอบขั้นสุดท้าย" โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ช่วยบอกวิธีที่ทำให้ CYTOP™ S-type ยึดกับตัวกลาง (substrate)
กลุ่มการทำงานขั้นสุดท้ายของ "CYTOP™ S-type" คือ "-CF3" ดังนั้น จึงไม่ยึดกับตัวกลาง (substrate) อย่างไรก็ดี หากใช้ "CYTOP™ A-type" ระหว่างตัวกลาง (substrate) กับ S-type ก็เป็นไปได้ที่จะทำให้ S-type ยึดติดกับตัวกลาง (substrate) ได้ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ฉันอยากได้ฟิล์ม CYTOP™ (หนาหลายมิลลิเมตร) ช่วยบอกทีว่าจะสร้างขึ้นได้อย่างไร
เป็นไปได้ที่จะสร้างฟิล์ม CYTOP™ โดยทำแบบหล่อขึ้นมาโดยใช้ CYTOP™ S-type และแม่พิมพ์ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
อัตราส่วนการส่งผ่านอินฟราเรดของ CYTOP™ อยู่ที่เท่าใด?
เราทำการวัดข้อมูลความยาวคลื่นได้ถึง 25μm โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค
ช่วยบอกความเสถียรทางความร้อนของ CYTOP™
การสลายตัวโดยความร้อนของ CYTOP™ เริ่มขึ้นที่ 400°C ดังนั้น อุณหภูมิที่เหมาะสมในการใช้งานคือ 350°C หรือต่ำกว่าภายใต้อุณหภูมิห้อง โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารประกอบทางเทคนิค

Afluid™ IRX

ทำไมคุณจึงสามารถกันคราบเปื้อนได้ยอดเยี่ยมเพียงเติมในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น?
เนื่องจากส่วนของโพลิเมอร์ที่ประกอบด้วยโมเลกุลฟลูออรีนที่เทียบเคียงได้กับความกันคราบเปื้อนของไออาร์เอ็กซ์ กระจายเป็นชั้นบางๆ และครอบคลุมพื้นผิวส่วนนอกสุดของการเคลือบ
ต้องใช้สารเติมแต่งแค่ไหนจึงจะได้ผล?
แนะนำให้ใช้อัตราส่วนผสมที่ 0.5-1% แต่ในบางกรณี จะเห็นผลการกันคราบเปื้อนที่ประมาณ 0.1% โปรดยืนยันปริมาณสารเติมแต่งที่เหมาะสมที่สุดก่อนดำเนินการ
โปรดบอกประเภทน้ำยาเคลือบที่ผสมกับไออาร์เอ็กซ์ได้
ใช้ได้กับน้ำยาเคลือบที่มี่ส่วนประกอบของไฮโดรคาร์บอน (คีโตน, ไกลคอล, เอสเตอร์, อะคริลิก ฯลฯ) โปรดยืนยันก่อนดำเนินการ นอกจากนี้ อาจเพิ่มความสามารถในการละลายได้โดยปรับเพิ่มอุณหภูมิไปอยู่ที่ประมาณ 40°C
โปรดบอกวิธีเพิ่มความทนทานเพิ่มเติม
สามารถเพิ่มความทนทานได้โดยการบ่มในสภาพที่มีไนโตรเจน แทนการบ่มด้วยอากาศ